วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2554

อย่าพูดจนกว่าจะรู้ในสิ่งที่คุณจะพูด

ข้อมูลจากหนังสือ 108-1009


ครั้งหนึ่งมีชายสองคนได้ขึ้นบอลลูนและหลงทาง ในที่สุดพวกเขาก็ได้มองลงไปที่ชายคนหนึ่งที่อยู่เบื้องล่าง และตะโกนลงมาด้วยความหวังว่าชายที่อยู่เบื้องล่างจะบอกทิศทางของตำแหน่งบอลลูนให้
ชายคนที่พิงขอบตะกร้าได้ตะโกนถามลงมาว่า “ช่วยบอกเราหน่อยว่า เราอยู่ที่ไหน” ชายคนที่อยู่บนพื้นตอบว่า “ได้สิ พวกคุณอยู่ในบอลลูนที่สูงจากพื้น 50 ฟุต” ชายคนที่อยู่ในบอลลูนอีกคนบอกกับเพื่อนว่า  “ไปหาคนที่ไม่ใช่ผู้ตรวจสอบบัญชีดีกว่า” เพื่อนของเขาจึงถามว่า “คุณรู้ได้ไงว่าเขาเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี” เขาตอบว่า “ก็เพราะเขาให้ข้อมูลเราถูกเผงเลย แต่ไม่มีประโยชน์ต่อเราเลย”
บ่อยครั้งที่เรามัวแต่สนใจในรายละเอียดของสิ่งที่เราต้องการพูดจนไม่ได้ใส่ใจผู้ฟัง ถ้าเราต้องการให้คนอื่นฟังในสิ่งที่เราต้องการพูดลำดับแรกต้องรู้ว่าเรากำลังพูดกับใครและเขาต้องการรู้อะไร สิ่งที่เราพูดถ้าอยู่นอกเหนือความต้องการของเขา ก็จะไม่ได้รับความสนใจ
สิ่งสำคัญก็คือ ต้องรู้ว่าคุณกำลังจะพูดอะไร และที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือต้องรู้ว่าคุณกำลังพูดกับใคร ข้อมูลที่ปราศจากการนำมาประยุกต์ใช้จะไม่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น

- ข้อพระคัมภีร์ สดุดี 19:14


"ข้าแต่พระเจ้า ผู้เป็นกำลังของข้าพระองค์และพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ และการรำพึงในจิตใจเป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์เถิด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น