ข้อมูลจากหนังสือ 108-1009
เด็กชายคนหนึ่งชื่อ ทอม เขาเป็นคนเดื้อ ไม่ค่อยเชื่อฟังครู วันหนึ่งครูได้แจกไข่ให้พวกเขาคนละฟองและบอกพวกเขาว่า สัปดาห์หน้าให้พวกเขาเอาไข่กลับมาอีกครั้งหนึ่ง โดยที่หาอะไรมาใส่ไว้ในเปลือกไข่เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของวันอีสเตอร์
สัปดาห์ต่อมาซึ่งเป็นวันอิสเตอร์ ในเช้าวันอาทิตย์วันนั้นนักเรียนทุกคนนำเปลือกไข่ของตนเองมา โดยที่ทุกคนมาวางไว้หน้าชั้น ครูก็หยิบของแต่ละคนขึ้นมาเปิดดู เมื่อเปิดไข่ฟองแรก ครูก็เห็นต้นไม้ต้นเล็ก ๆ อยู่ในไข่ ครูอธิบายว่า นี่แหละคือความหมายของวันอิสเตอร์ เพราะต้นไม้แสดงถึงการมีชีวิต ต่อมาก็เปิดอีกใบหนึ่ง แล้วทันใดนั้นผีเสื้อตัวหนึ่งก็บินออกมา ครูก็ดูไข่แต่ละฟองไปเรื่อย เขาหยิบไข่ฟองหนึ่งขึ้นมาแล้วเปิดดู แต่เขาก็ไม่เห็นอะไรในไข่ใบนั้น ดังนั้นครูจึงคิดว่าไข่ฟองนี้ต้องเป็นของทอมแน่ ๆ จึงถามทอมว่า “ทอม ไข่ใบนี้ของทอมใช่ไหม” ทอมตอบว่า “ใช่” แล้วครูจึงถามต่อว่า “ทำไมทอมถึงเอาไข่เปล่า ๆ มา โดยที่ข้างในไม่มีอะไร” ทอมตอบว่า “ครูครับในเช้าวันอาทิตย์วันที่พระเยซูคืนพระชนม์นั้นในอุโมงค์ของพระเยซูมีอะไรอยู่หรือเปล่าครับ”
- ข้อคิด ในวันที่พระเยซูทรงฟื้นคืนพระชนม์ในอุโมงค์ของพระเยซูไม่มีอะไร เพราะพระเยซูทรงฟื้นขึ้นจากความตายแล้ว และพระเยซูยังทรงพระชนม์อยู่จนถึงทุกวันนี้
"เช้าตรู่วันต้นสัปดาห์ ขณะที่ยังมืดอยู่ มารีย์ชาวมักดาลาออกไปที่พระคูหา ก็เห็นหินถูกเคลื่อนออกไปจากพระคูหา แล้วนางจึงวิ่งไปหาซีโมนเปโตรกับศิษย์อีกคนหนึ่งที่พระเยซูเจ้าทรงรักกล่าวว่า "เขาได้นำองค์พระผู้เป็นเจ้าไปจากพระคูหา แล้ว พวกเราไม่รู้ว่าเขานำพระองค์ไปไว้ที่ไหน" เปโตรกับศิษย์คนนั้นจึงออกไป มุ่งไปยังพระคูหา ทั้งสองคนวิ่งไปด้วยกัน แต่ศิษย์คนนั้นวิ่งเร็วกว่าเปโตร จึงมาถึงพระคูหาก่อน เขาก้มลงมองเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่บนพื้น แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน ซีโมน เปโตรซึ่งตามไปติดๆก็มาถึง เข้าไปในพระคูหาและเห็นผ้าพันพระศพวางอยู่ที่พื้น รวมทั้งผ้าพันพระเศียรซึ่งไม่ได้วางอยู่กับผ้าพันพระศพ แต่พับแยกวางไว้อีกที่หนึ่ง แล้วศิษย์คนที่มาถึงพระคูหาก่อนก็เข้าไปข้างในด้วย เขาได้เห็นและมีความเชื่อ เพราะเขาทั้งหลายยังไม่เข้าใจพระคัมภีร์ที่ว่า พระองค์ต้องทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย หลังจากนั้น ศิษย์ทั้งสองก็กลับไปบ้าน"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น